1. สามารถใช้เมาส์ลากรายการ หรือกด SHIFT หรือกด CTRL ค้างเพื่อตั้งค่าวีดีโอพร้อมกันหลายรายการได้ หรือจะใช้คีย์ลัด CTRL+A ก็ได้
2. กดปุ่ม    เพื่อ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชั่นนั้นๆ

1. ส่วนการเลือกไฟล์ซับเพื่อฝังซับลงวีดีโอ
2. การแทรก Intro / EndCard
     - หากต้องการเลือกเพลงโปรดติกช่องนี้  
     - หากใช้ Intro / EndCard เป็นภาพให้ตั้งเวลาความยาวของ Intro / EndCard เป็นวินาที ทศนิยมสองหลักในช่องนี้  
3. สำหรับคนที่แยกไฟล์คาราโอเกะกับไฟล์ซับสามารถใส่ไฟล์คาราโอเกะได้ที่ส่วนนี้
4. การฝังข้อมูลลงไปในไฟล์ เช่น ชื่อเรื่อง, ผู้จัดทำ ดังตัวอย่างในภาพด้านล่าง

1. เลือก Encoder ที่ต้องการ แนะนำให้ใช้การ์ดจอในการ Encode เพื่อความไว ท่านสามารถดูรุ่นการ์ดจอที่รองรับได้ที่
     - Intel Quick Sync
     - Nvidia NVENC
     - AMD VCE
       เมื่อ Encode โปรแกรมจะขึ้น Failed หากการ์ดจอท่านไม่รองรับ หรือไดรฟ์เวอร์ไม่ใช่รุ่นล่าสุด
2. Preset ของการ Encode มีผลต่อขนาดไฟล์, คุณภาพ และความเร็วในการ Encode โดยค่าแนะนำคือ Medium [ ยิ่งช้าคุณภาพยิ่งดี ]
3. กำหนดค่าคุณภาพของภาพ (CRF) มีผลต่อขนาดไฟล์และคุณภาพ โดยจะมีค่าแนะนำในโปรแกรม ซึ่งจะเปลี่ยนไปกับ Raw ที่ใช้และ Video Codec ที่เลือก หรือให้ดูจากภาพด้านล่าง



       ค่าคุณภาพจะเป็นการปรับจูนพารามิเตอร์ของอัลกอริทึมให้เปรียบเทียบภาพ ก่อน-หลัง Encode ว่ามีความแตกต่างกันเพียงใด (ยิ่งน้อยคือยิ่งเหมือนต้นฉบับ) โดยอัลกอริทึมจะคำนวณบิทเรทที่ต้องการให้อัตโนมัติ พยายามคงคุณภาพไว้ให้ได้มากที่สุดโดยใช้บิทเรทให้น้อยที่สุด โดยปกติต่ำกว่า 18 มนุษย์จะไม่เห็นความแตกต่างแล้ว และค่าที่แนะนำถ้าต้องการไฟล์เล็กให้ใช้ 24 ขึ้นไป

       หมายเหตุ : ค่าคุณภาพเป็นโหมดที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โปรแกรมเลยไม่รองรับการกำหนดบิทเรทด้วยตัวเองเพราะวีดีโอแต่ละตอนหรือแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน (เพราะถ้าเหมือนกันก็เป็นไฟล์เดียวกัน) โหมดนี้จะเป็นการให้คอมพิวเตอร์คำนวณบิทเรทที่จำเป็นในเฟรมนั้นๆ ทำให้ภาพออกมาชัดโดยแต่ละฉากจะได้เฟรมเรทตามที่ต้องการจริง จะไม่มีปัญหาภาพแตกในฉากที่มีการขยับเยอะๆ เช่นฉากแอคชั่นที่จะเจอบ่อยในการใช้โปรแกรมอื่น

1. "Format" เลือก Audio Codec ที่ใช้
     - TVRip และ WebRip จะใช้ AAC (Advanced Audio Coding)
     - BDRip จะใช้ FLAC (Free Lossless Audio Codec)
        หมายเหตุ : FLAC จะใช้นามสกุลไฟล์ MKV เพราะ MP4 ไม่ได้รองรับ FLAC ในร่างมาตรฐาน การใช้ FLAC กับไฟล์นามสกุล MP4 อาจจะมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ (compatibility)
2. "Quality" เลือก Bitrate สำหรับเสียง โดยปกติแล้ว AAC จะใช้ 128Kbps ส่วน FLAC จะคงคุณภาพตามต้นฉบับจึงไม่จำเป็นต้องเลือก
3. "Sample Rate" ปรับ Sample Rate ของเสียง หากต้องการให้คงตามต้นฉบับให้เลือก Original
4. "Track" เลือก Track เสียงจากไฟล์ต้นฉบับที่มีเสียงหลาย Track ตัวอย่างเช่นไฟล์ BDRip นามสกุล .mkv ที่มักจะใส่เสียงหลาย Track เอาไว้
5. "Volume Control" ปรับระดับเสียงของคลิปแต่ละส่วนเพื่อให้ระดับความดังเสียงเท่ากัน

เลือกรูปแบบ Transition ตรงกล่องที่ลูกษรชี้ ซึ่งประกอบไปด้วย
1. "Disable" ปิดการใช้งาน Transition
2. "Fade" เป็นการเลือนภาพจากเฟรมสีที่กำหนดแล้วค่อยๆ ปรากฏภาพให้เห็น หรือจนจางหายไป
3. "Dissolve" การจางซ้อนโดยที่ภาพแรกค่อยๆ เลือนจางหายไป ในขณะที่ภาพที่สองก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา
4. "Custom Transition" เป็นการใช้วีดีโอ Mask ภาพนามสกุล .mov โดยใช้พิกัดสี RGBA ของท่านเอง

หมายเหตุ : หากไม่ได้ใส่ Intro หรือ EndCard การตั้งค่าตรงนี้จะไม่มีผล

1. เปิด-ปิด การ Fade ของส่วนนั้นๆ
2. เลือกสีของการ Fade โดยมีตัวอย่างสีให้ทางด้านขวาของปุ่ม
3. ตั้งเวลาของการ Fade

1. ปรับเวลาของการ Dissolve
2. ปรับเวลาของการ Fade เข้าวีดีโอ
3. ปรับเวลาของการ Fade ออกวีดีโอ

1. เลือกไฟล์ Transition Mask
2. เลือกไฟล์ Transition Overlay
3. ตั้งเวลาของการ Transition

1. "Picture / Video Logo" เลือกการแทรก Logo ด้วยภาพ / วีดีโอ
     - อ่านคู่มือได้ตามที่ลูกษรชี้ หรือ คลิก
2. "Subtitle Logo (.ass)" เลือกการแทรก Logo ด้วยไฟล์ซับ